โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเฟเนห์บาห์เช่ โดนแบน 4 นัดและปรับเงิน 35,194 ปอนด์ จากกรณีวิจารณ์หลังเกมกับกาลาตาซราย คู่ปรับตลอดกาล
มูรินโญ่ถูกกาลาตาซารายกล่าวหาว่า ใช้ถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ หลังเกมดาร์บี้แมตช์ที่อิสตันบูล และเมื่อวันอังคาร เฟเนร์บาห์เช่แถลงการณ์ว่าความเห็นของเขาถูกนำไปใช้ “โดยไม่เข้าใจบริบท”
เกมจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ซึ่งตัดสินโดย สลาฟโก้ วินซิช ผู้ตัดสินชาวสโลวีเนีย หลังทั้ง 2 สโมสรร้องขอให้เจ้าหน้าที่จากต่างประเทศมาควบคุมการแข่งขันในครั้งนี้
แต่ผู้ตัดสินที่ 4 เป็นชาวตุรกี และมูรินโญ่กล่าววิจารณ์ผู้ตัดสินชาวตุรกีอีกครั้งในระหว่างแถลงข่าวหลังเกม
กุนซือวัย 62 ปี กล่าวว่า เขาได้ไปที่ห้องแต่งตัวของผู้ตัดสินหลังจบเกมเมื่อวันจันทร์ โดยบอกกับผู้ตัดสินที่ 4 ว่า “ถ้าคุณเป็นผู้ตัดสิน การแข่งขันครั้งนี้คงเป็นหายนะ”
เมื่อวันพฤหัสบดี สหพันธ์ฟุตบอลตุรกี ยืนยันว่าจะลงโทษมูรินโญ่ด้วยข้อกล่าวหาทางวินัย 2 กรณี
ข้อกล่าวหาดังกล่าวเกี่ยวกับ “คำพูดดูหมิ่นและหยาบคายต่อผู้ตัดสินชาวตุรกี” และเพราะมูรินโญ่ “กล่าวหาว่า วงการฟุตบอลตุรกีทำให้เกิดความวุ่นวายและไร้ระเบียบด้วยคำพูดดูหมิ่นและหยาบคายต่อทั้งชุมชนฟุตบอลตุรกีและผู้ตัดสินชาวตุรกีทุกคน”
อดีตกุนซือเชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และสเปอร์ส ถูกแบนจากห้องแต่งตัวและม้านั่งสำรอง 2 เกม และปรับเงิน 117,000 ลีราตุรกี (2,543 ปอนด์)
นอกจากนี้ มูรินโญ่ยังโดนแบนเพิ่มอีก 2 นัด กรณี “การกระทำที่ขัดต่อหลักจริยธรรมนักกีฬา” ในระหว่างแถลงข่าวหลังเกม และถูกปรับเป็นเงิน 32,651 ปอนด์
ความคิดเห็นของเขาประกอบด้วยคำพูดที่ว่า “หลังการพุ่งล้มอย่างโฉ่งฉ่างในนาทีแรก และม้านั่งสำรองที่กระโดดโลดเต้นเหมือนลิงอยู่บนตัวเด็ก … กับผู้ตัดสินชาวตุรกี คุณจะได้รับใบเหลืองเมื่อผ่านไป 1 นาที และหลัง 5 นาทีผ่านไป ผมต้องเปลี่ยนตัวเขาออก”
สหพันธ์ฟุตบอลตุรกี ระบุว่า “คำพูดที่ใช้กับสมาชิกของทีมฝ่ายตรงข้ามขัดต่อจริยธรรมของกีฬาและแนวคิดเรื่องการเล่นอย่างยุติธรรม มีการแสดงออกที่อาจส่งเสริมความรุนแรงและความวุ่นวายในกีฬา ก่อให้เกิดความแตกแยกและแบ่งแยกในสังคม และอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้แฟนๆ ไม่พอใจได้”
เจ้าหน้าที่เฟเนร์บาห์เช่ได้ยืนยันกับบีบีซีเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สโมสรจะอุทธรณ์บทลงโทษที่มอบให้กับมูรินโญ่
